เริ่มต้นอย่างมืออาชีพ

START UP
     เริ่มต้นอย่างถูกต้องทำให้คุณไม่เสียเวลาและหลงทาง เริ่มต้นอย่างมืออาชีพ จะทำให้กิจกรรมการเริ่มธุรกิจส่งผลในอนาคตทำให้ธุรกิจจะมั่นคงและยืนยงคงกระพัน ยอดการค้าของคุณจะไม่ตก ไม่ขึ้นๆ ลงๆ เหมือนองค์กรธุรกิจทั่วๆ เทคนิคและวิธีการนี้เป็นเทคทิคของผู้สำเร็จระดับโลก คือ ริชเดอวอส และนำมาถ่ายทอดโดย คุณ ฟู ฮาวเกียน

รู้ก่อนว่าเราตั้งใจทำเพราะอะไรคุ้มค่าหรือไม่?
     เราจะมีพลังในการเรียนรู้ ถ้าเรารู้ว่าเราทำกิจกรรมนี้เพื่ออะไร จะสร้างความมุ่งมั่นให้กับเรา จะทำให้เราสร้างความมั่นใจในขั้นต่อไปว่า กิจกรรมนี้ดีจริงหรือไม่ แผนธุรกิจมีรายละเอียดอย่างไร ให้ความคุ้มค่ากับเราจริงหรือไม่ เมื่อเรารู้ว่าคุ้มค่าจริง จะเกิดคำถามในใจอยากรู้ต่อไปว่าผลิตภัณฑ์ที่จะเป็นเครื่องมือให้กับเรา แข่งขันกับผลิตภัณฑ์ตามท้องตลาดได้หรือไม่ ดีกว่าอย่างไรและทำไมต้องเปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา
ศึกษาผู้ประสบความสำเร็จ
     ทางลัดในการค้นคว้าหาความรู้ที่ดีที่สุดคือเรียนรู้จากประสบการณ์ของผู้สำเร็จแล้วนำมาต่อยอดความสำเร็จ เราควรรู้ว่าใครที่ทำได้บ้าง ทำสำเร็จแล้วเขาได้รับอะไร บริษัทหุ้นส่วนดูแลดีไหม? และควรหาเวลาไปพบและพูดคุยกับผู้สำเร็จเหล่านั้นเพื่อเพิ่มพูนความรู้ของเราว่าเขามีแนวคิดอย่างไรที่ลงมือทำกิจกรรมจนประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วและถูกต้องตามกฎและจรรยาบรรณ
เริ่มต้นในธุรกิจนี้อย่างไร
     ก่อนอื่นขอแนะนำให้เราพักเอาความรู้และความชำนาญส่วนบุคคลของเราไว้ แล้วทำสมองของเราให้ว่างเพื่อรับแนวทางของแนวทางการปฎิบัติตามแบบฉบับของธุรกิจนี้ ทำไม่จึงให้ทำเช่นนี้ เนื่องจากว่า แนวทางที่ผู้สำเร็จที่สะสมประสบการณ์ทำมากว่า 50 ปี และยังคงใช้กันอยู่ในปัจจุบันและได้ผลดีอยู่แล้วมีผู้ทำธุรกิจรุ่นหลังๆ พยายามหาแนวทางใหม่ๆ กันเป็นจำนวนมากมายแต่สุดท้ายผลที่ได้ให้ความสำเร็จที่ช้ากว่าและได้ผลดีไม่เท่ากับแนวทางที่ประสบความสำเร็จอยู่แล้ว ที่กล่าวมาให้ฟังเนื่องจากว่า หากใครมีแนวคิดที่ออกนอกกรอบนี้จะทำให้เขาเหล่านั้นประสบความสำเร็จที่ช้า และอาจทำให้เสียโอกาสไปอย่างน่าเสียดาย

เตรียมพร้อมสู่มืออาชีพ

     มีสิ่งสำคัญอยู่ 2 สิ่งในธุรกิจนนี้ ทำให้เราประสบความสำเร็จ คือ ผลิตภัณฑ์และแผนธุรกิจ เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่าสิ่งสองสิ่งนี้มีความสำคัญอย่างไร ปรัชญญาของธุรกิจนี้ คือ " PEOPLE HELP PEOPLE " เราจะประสบความสำเร็จจากการได้ช่วยเหลือคนให้ประสบความสำเร็จก่อน กล่าวคือ เราต้องสอนให้คนที่เราอยากช่วยให้เขาประสบความสำเร็จทำธุรกิจให้เป็น ดังนั้นเราจึงต้องมีความรู้เรื่อง
1. ผลิตภัณฑ์

2. แผนธุรกิจ

     เราต้องรู้ 2 ข้อนี้ให้แตกฉานและต้องถ่ายทอดให้เขารู้ด้วยประสบการณ์ของเราเท่านั้นจึงจะได้ผล การให้แต่ข้อมูลและท่องจำไม่สามารถทำให้คนสำเร็จได้ จะเหมือนกับกับธุรกิจทั่วๆ ไป ที่เน้นท่องจำแล้วออกไปท่องให้ผู้คนฟัง คนฟังก็จะไม่ให้ความสนใจเท่าที่ควร ที่นี้มาดูกันว่าเราจะเป็นมืออาชีพกับสองข้อนี้ได้อย่างไร
     เราทำธุรกิจ ดังนั้นเราควรเข้าใจกับคำว่าธุรกิจ ธุรกิจย่อมต้องมีการลงทุนมากน้อยเป็นเรื่องปกติ สำหรับการลงทุนในธุรกิจนี้เทียบกับธุรกิจอื่นๆ ถือว่า ต่ำมาก และสำหรับแนวทางการทำแบบสายกลางที่จะให้ประโยชน์กับเราและการสร้างธุรกิจด้วยตลอดจนจะไม่กระทบกับงานประจำที่เราทำอยู่เพราะเราเอาเวลาว่างหลังเลิกงานมาทำ เราควรรู้หลักสำคัญคือ เราจะเอาผลกำไรจากการแนะนำผลิตภัณฑ์และธุรกิจมาเป็นค่าใช้จ่ายในการสร้างธุรกิจให้เรา

     การทำธุรกิจนี้ ต้องการเชิงรุก ( เพื่อให้มีรายได้ระหว่างทำ ) และ ต้องการเชิงรับ ( เพื่อสะสมส่วนลดมาเป็นรายได้ระหว่างทำการช่วยเหลือ ) ควบคู่กันไปอย่างสมดุล เราจึงจะมีความสุขกับการทำธุรกิจ สำหรับคนที่มีทุนไม่เดือดร้อนก็ถือว่าโชคดีไป สามารถทำธุรกิจเชิงรับได้ไม่เดือดร้อนแต่สำหรับคนที่ไม่มีทุน ธุรกิจนี้ก็มีเครื่องมือรองรับไว้แล้วเช่นกัน ท่านทำสองอย่างทั้งรุกและรับไปด้วยกัน ท่านจะได้รับรู้ว่าการมีรายได้ในระหว่างสร้างธุรกิจทำอย่างไร ง่ายๆ และท่านจะมีความชำนาญในเรื่องของประสบการณ์ที่สามารถนำไปสร้างรายได้เสริมในช่วงแรกได้อย่างสบายและใช้กลุ่มท่ี่สร้างเป็นความสำเร็จที่จะนำไปสู่รายได้แบบ PASSIVE INCOME เป็นมรดกตลอดไป
     กิจกรรมแนวรุก ด้วยการมีลูกค้าประจำ 20 ครอบครัว และ กิจกรรมแนวรับ ด้วยการมีทีมงาน 20 คน ( ค้นหาผู้นำ 4 คน แล้วให้ความรู้ให้ทำเช่นเดียวกับเรา ) ท่านจะพบว่าท่านจะมีผลตอบแทนทั้งสองทางแรกๆ ดูเหมือนน้อยจากลูกค้า 20 ราย แต่เมื่อท่านช่วยเหลือทีมผู้นำ 4 คนให้สำเร็จมากขึ้นรายได้ของท่านจะเกิดการทวีคูณตามระบบแผนธุรกิจและเมื่อทีม 4 คนประสบความสำเร็จท่านจะหยุดทำงานได้ตลอดไปแต่รายได้จะไม่หยุดเนื่องจากมีการบริโภคผลิตภัณฑ์ที่ต่อเนื่องและองค์กรของทีมงานจะเติบโตต่อเนื่องไม่มีหยุด

     เริ่มต้นจากส่วนลด 6 % เติบโตเรื่อยๆ จนถึงส่วนลด 21% ส่วนนี้ถือว่าสำคัญที่สุด องค์กรทั่วๆ ไป จะให้ความรู้ที่ข้ามขั้นตอนนี้ไป จะไปให้ความสำคัญกับความสำเร็จที่สูงกว่า และเมื่อลงมือค้นหาผู้นำอย่างเดียว จะทำให้เข้าสู่กับดักแล้วจะแก้ยากขนาดต้องเริ่มทำใหม่ตามแนวทาง ( เริ่มต้นจากส่วนลด 6 % เติบโตเรื่อยๆ จนถึงส่วนลด 21% ) จึงจะหลุดจากกับดักนี้และเติบโตอย่างต่อเนื่องต่อไป

     สิ่งสำคัญที่ต้องทำ ต้องเรียนรู้และทำให้เป็นเร็วที่สุด มีสูตรคือ 1M + 3S 
M คือ Meeting คือ การเรียนรู้
S ที่ 1 คือ Sale เรียนรู้หลักการแนะนำผลิตภัณฑ์ตามแบบฉบับของธุรกิจนี้
S ที่ 2 คือ Sponser เรียนรู้เรื่องแผนธุรกิจ อย่างถ่องแท้เพื่อการนำเสนอที่สามารถอธิบายให้เข้าใจได้อย่างละเอียด เพื่อทำการแนะนำและเปิดโอกาสให้คนทุกคนเข้าใจในจุดประสงค์ของธุรกิจเราว่าจะได้อะไร คุ้มค่าหรือไม่
S ที่ 3 คือ Service ช่วยเหลือและคอยดูแลเอาใจใส่ จัดหาข้อมูลใหม่เทคนิควิธีการ เพื่อให้ทีมของเราพัฒนาความเป็นผู้นำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เทคนิคพูดคุยกับผู้คน

     มีหลายๆ กรณีศึกษาที่มาจากประสบการณ์การลงมือทำกิจกรรมนี้ ที่ให้ผลลัพท์ออกมาในรูปแบบของความล้มเหลว การพัฒนาตัวเองให้เป็นคนที่ผู้คนอยากคุยด้วย คุณต้องเป็นผู้ฟังที่ดีก่อนเปิดประเด็นให้เขาคุยในเรื่องของเขาแล้วเราจะเป็นผู้ฟังที่ดี ฟังอย่างน่าสนใจ จับประเด็นแล้วค่อยแทรกเกร็ดธุรกิจลงไปว่ามันช่วยคุณได้ เขาจะสนใจและอยากฟังคุณเล่า เพราะคุณเป็นคู่สนทนาที่ไม่เอาเปรียบเขา ระลึกเสมอว่าไม่มีใครอยากฟังเรื่องของคุณตอยที่เขาไม่อยากฟัง คนมักอยากพูดให้คนอื่นฟัง เหมือนร้องเพลงคาราโอเกะ ให้ร้องที่บ้านคนเดียวจะไม่อยากร้องเพราะไม่มีคนฟัง ชอบที่จะไปร้องที่อื่นเพราะมีคนฟังนั่นเอง

     คนพูดน้อย ไม่สามารถเริ่มเปิดประเด็นได้ เพราะคุณมีความ"กลัวจะผิดพลาด"อยู่ในใจ หรือไม่ก็มี"ความลับ"หรือ"พื้นที่ส่วนตัวในใจ"ที่ไม่อยากให้ใครรุกล้ำหรือล่วงรู้อยู่ วิธีแก้คือ เราต้องเปิดใจยอมรับตัวเองให้มากขึ้น ว่าเราก็มีดี สิ่งที่เราเก็บไว้ในใจ หรือตัวของเราเองนั้น ไม่ใช่สิ่งเลวร้ายที่จะไม่มีใครยอมรับ เพราะเราไม่ได้จะผิดพลาดอะไร อย่าไปกลัวว่าใครจะรู้สึกแปลกหรือไม่ดีถ้าล่วงรู้ตัวตนที่แท้จริงของคุณ โดยขั้นแรก ก็เริ่มสร้างความมั่นใจ จากเสื้อผ้าหน้าผม ของคุณก่อนก็ได้ครับ
แล้วจะรู้ว่าเพื่อนใหม่ไม่ได้หายากและ น่ากลัวอย่างที่คิดเลย

จินตนาการที่เป็นจริงได้

นี่คือธุรกิจของคุณ

ไม่ใช่ความฝันอีกต่อไป
     ลองคิดเล่นๆ คนจำนวนหนึ่ง สมมุติให้มีทั้งหมดเป็นจำนวน 15,625 คน คนจำนวนนี้มีความจำเป็นที่จะต้องซื้อของไว้ใช้เป็นประจำทุกๆ เดือนๆ ละ 3,000 บาท รวมแล้วจะเป็นเงิน 46,875,000 บาท ตลอดไปและตลอดกาล

     ลองคิดเล่นๆ สมมุติว่าคนจำนวน 15,625 คนนี้เป็นสมาชิกธุรกิจของคุณและซื้อสินค้าเป็นเงิน 46,875,000 บาท จากร้านหุ้นส่วนของคุณและหุ้นส่วนธุรกิจแบ่งกำไรให้คุณ 4% เป็นเงิน 1,875,000 บาททุกๆ เดือนคุณคิดว่าดีไหม?

     การสร้างสมาชิกจำนวน 15,625 คน คุณคิดว่าจะใช้เวลาสร้างเท่าไร สมมุติว่าคุณสร้างสมาชิกทุกๆ วันๆ ละ 10 คน จะต้องใช้เวลา 1,562 วัน หนึ่งปีมี 365 วัน จะใช้เวลา 4 ปีกับอีก 3 เดือน

     ถ้าสร้างด้วยระบบทวีคูณโดยการสร้างทีมขึ้นมา 1 ทีม มีสมาชิก 5 คน สมมุติให้เป็น ก  ข  ค   ง  และ  จ  แล้วสอน ก ความรู้และวิธีการหาสมาชิกให้ได้ 5 คน ถ้า ข ค ง และ จ ทำได้เหมือน ก เดือนแรก จะมีสมาชิกรวมตัวคุณคือ 31 คน เดือนถัดไป ก ข ค ง และ จ ก็สอนเหมือนที่คุณทำ ทำเช่นนี้ 5 เดือนคุณจะมีสมาชิกทั้งหมด จำนวน 15,625 คน และพวกเขาจะไม่หยุดการสร้างสมาชิกจะยังคงสร้างต่อๆ กันไปไม่หยุด เพราะจำนวนเงิน 4% เป็นเงิน 1,875,000 บาททุกๆ เดือน จะเป็นค่าตอบแทนที่พวกเขาจะได้เช่นเดียวกับคุณ

     คุณคิดว่าสมาชิกจำนวนนี้จะเป็นสมาชิกในเครือข่ายของคุณได้ไหม? 

นี่ไม่ใช่สิ่งที่เพ้อฝันอีกต่อไป ถ้าคุณมีความฝัน มีความมุ่งมั่น คุณสามารถทำได้ด้วยศักยภาพของตัวคุณที่มีอยู่อย่างล้นเหลือ แต่เพียงไม่มีโอกาสให้คุณได้แสดง วันนี้ เวทีที่จะให้คุณแสดงได้จัดเตรียมไว้ให้คุณพร้อมแล้ว คิดเล่นๆ เงินจำนวน  1,875,000 บาททุกๆ เดือน อาจมากเกินไปที่จะใช้ให้หมด คิดเล่นๆ เอา 10 หาร เหลือ 187,500 บาทต่อเดือนก็ยังจะมากเกินไปสำหรับคนบางคนที่จะใช้ให้หมดไปภายใน 1 เดือน

ถ้าคุณพร้อมแล้วเราเริ่มกันเลย

เพิ่มเพื่อน หลังจากติดตั้งแอพพลิชั่น LINEที่ตัวเครื่องสมาร์ทโฟนแล้ว กรุณาสแกนคิวอาร์โค้ดด้านล่างนี้ หรือจะคลิกที่ลิงก์ด้านล่างนี้จากสมาทโฟนของท่านก็ได้  http://line.me/ti/p/VDx0IV8kED